เที่ยวชิโกกุ แบบจัดเต็ม คัดเน้นๆ ที่เที่ยวที่กิน ครบ 4 จังหวัดรอบเกาะ
ทิ้งความวุ่นวายของเมืองกรุง มุ่งตรงสู่ชิโกกุ ดินแดนแห่งธรรมชาติ อาหารแสนอร่อย เที่ยวสนุกครบทุกรูปแบบ 4 จังหวัดบนเกาะชิโกกุ EP.6 – จังหวัดเอฮิเมะ (Ehime) ตอน 2
เอฮิเมะ (Ehime) 1 ใน 4 จังหวัดของเกาะชิโกกุ เกาะที่เล็กที่สุดในบรรดา4เกาะหลักของญี่ปุ่น มีความเป็นเมืองที่ยังหลงเหลือร่องรอยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมไว้อย่างชัดเจน ภายใต้ความงดงามของธรรมชาติที่รายล้อมและกลมกลืนกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว
ทริปนี้ เราเดินทางเที่ยวกันเรื่อย ตั้งแต่จังหวัดโทคุชิมะที่ถือเป็นประตูสู่เกาะชิโกกุ ชมความงดงามที่น่าค้นหาของธรรมชาติและเที่ยวต่อไปที่จังหวัดคางาวะ จังหวัดน้องเล็กของเกาะที่อัดแน่นไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจจนตัวพอง
และเดินทางเข้าสู่เมืองอิมาบาริ ในจังหวัดเอฮิเมะ และวันนี้เข้าสู่เมืองมัตสึยามะกัน เมืองนี้ถือได้ว่าเป็นเมืองศูนย์กลางของจังหวัดเอฮิเมะ และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะชิโกะกุเลยทีเดียว จะมีอะไรสนุกๆ ให้เที่ยวกันบ้าง ตามพวกเรามากันเลยค่ะ
ส่วนใครยังไม่ได้อ่าน EP. ก่อน ตามได้ที่ลิงค์นี้นะคะ
ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโทคุชิมะ EP.1
ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโทคุชิมะ EP.2
ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดคางาวะ EP.3
ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดคางาวะ EP.4
ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดเอฮิเมะ EP.5
ปราสาทมัตสึยามะ (Matsuyama Castle)松山城
1 ใน 12 ปราสาทดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่รอดพ้นจากการทำลายโดยสงครามยุคเอโดะ ในช่วงก่อนเข้ายุคเมจิ
ปราสาทนี้ถือว่าใหญ่ที่สุดในเกาะชิโกะกุก็ว่าได้ เป็นสิ่งก่อสร้างที่ใช้เวลาสร้างนานกว่า 25 ปี (นานที่สุดในญี่ปุ่น)
เนื่องจากมีชื่อปราสาทที่คล้ายๆ กันในเมืองอื่นด้วย เพื่อเป็นการแยกให้เข้าใจง่าย ปราสาทนี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “อิโย-มัตสึยามะโจ” 伊予松山城 ตั้งอยู่บนเนินเขาคัตสึยามะ เมืองมัตสึยามะ จังหวัดเอฮิเมะ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 132 เมตร สามารถมองเห็นตัวเมืองมัตสึยามะและทะเลเซโตะได้อย่างชัดเจน
ภายในบริเวณปราสาทมีแมกไม้ให้บรรยากาศแสนร่มรื่น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่นี่ยังเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมอีกด้วยค่ะ…
การเดินทางก็ไม่ยากเลย หากใครที่ไม่ได้เดินทางด้วยรถยนต์เหมือนเรา ก็ให้เริ่มต้นจากสถานีรถไฟ JR Matsuyama นะคะ จากนั้นก็ไปเปลี่ยนขึ้นรถรางสาย 5 (ใช้เวลา 10 นาที) ไปลงที่สถานี Okaido แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที ก็ถึงจุดขึ้นกระเช้าค่ะ
การขึ้นไปชมปราสาทสามารถขึ้นได้ทั้งแบบเดินและขึ้นกระเช้าไป โดยกระเช้าจะมี 2 แบบคือลิฟท์โล่งๆ แบบห้อยขาเหมือนในรูป (แชร์ลิฟท์) และโรปเวย์ หากนั่งลิฟท์จะใช้เวลาประมาณ 6 นาที ส่วนกระเช้าโรปเวย์จะออกทุกๆ 3 นาที ใช้เวลาประมาณ 3 นาทีก็ถึงด้านบนแล้วค่ะ
แต่หากใครที่เป็นสายลุยๆ ชอบเดินเทรคกิ้งอยู่แล้ว จะลองเดินขึ้นไปตามเส้นทางปีนเขาก็ได้นะคะ มีให้เลือกกันถึง 4 เส้นทางเลยทีเดียว คนญี่ปุ่นที่ชอบเดินเทรคกิ้ง มักจะมาเดินขึ้นไปกันค่ะ
มาถึงจุดลงกระเช้าแล้วก็เดินต่ออีกประมาณ 10 นาที จะไปถึงส่วนประตูทางเข้าปราสาท
จุดน่าสนใจของปราสาท กำแพงหินอิชิกาคิ
การมาเที่ยวที่ปราสาทมัตสึยามะ นอกจากจะชมความงดงามของตัวปราสาทและวิวด้านบนแล้วอีกจุดที่ไม่ควรพลาดก็คือ สถาปัตยกรรมงานหิน อิชิกาคิ Ishigaki (石垣) หรือกำแพงหินแบบญี่ปุ่น มีรูปแบบวิธีการการเรียง ให้มีความลาดชันที่แตกต่างกันไป
การสร้างต้องใช้ช่างฝีมือชั้นสูง จัดเรียงและตัดแต่งให้เป็นเส้นแอ่นโค้งสวยงามและแน่นอนว่าจะต้องมีคุณสมบัติแข็งแรงทนทาน
ในบรรดาปราสาททั่วญี่ปุ่น ที่นี่ถือว่าเป็นจุดที่เหล่านักนิยมชื่นชอบปราสาทต้องยอมรับในความงดงามเป็นอันดับต้นๆ เลยค่ะ
หากสังเกตดีๆ จะเห็นได้ว่า ก้อนหินบางก้อนจะมีสัญลักษณ์ด้วย ตรงนี้จะเป็นจุดที่ทำไว้ใช้เป็นรูสำหรับปล่อยลูกธนูตอนที่สู้รบกับข้าศึก
น้ำส้มมิคังจากก๊อกน้ำ อีกสิ่งที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาเที่ยวเอฮิเมะ…
เมื่อพูดถึงจังหวัดเอฮิเมะ อีกสิ่งที่จะต้องลองก็คือ ชิมน้ำส้มคั้นที่ไหลออกมาจากก๊อกน้ำ!!
ที่จังหวัดเอฮิเมะ มีชื่อเสียงในการปลูกส้มมากๆ ถ้ามาแถวนี้แล้วเราจะเห็นได้ชัดเลยว่าตามจุดต่างๆ จะมีร้านขายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับส้มเยอะมากๆ และสิ่งที่เป็นจุดเด่นไม่เหมือนใครก็คือ น้ำส้มจากก็อกน้ำนี่แหละค่ะ อร่อยหอมหวานชื่นใจสุดๆ ไปเลย
ก๊อกน้ำส้มจะมีตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วเมืองและที่ร้านขายของฝากบนปราสาทมัตสึยามะก็มีบริการเช่นกันค่ะ
แวะนั่งพักชิมน้ำส้มอร่อยๆ กันแล้วก็ลงจากปราสาท เดินเล่นชมเมืองไปขึ้นรถรางเพื่อเที่ยวต่อที่โดโกะออนเซ็นกันค่ะ ตัวเมืองบรรยากาศดี น่ารักมากๆ มีคาเฟ่ ร้านขนม ร้านอาหารเยอะเลย ที่ร้านที่ให้บริการน้ำส้มจากก๊อกน้ำด้วย…
ปราสาทมัตสึยามะ
เว็บไซต์: https://www.matsuyamajo.jp/
ขึ้นรถราง มุ่งหน้าไปโดโกะออนเซ็นกันค่ะ…
มาถึงแล้ว โดโกะออนเซ็น (Dogo Onsen) 道後温泉
เที่ยวโดโกะออนเซ็น (Dogo Onsen) 道後温泉
สำหรับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น และหลงใหลในออนเซ็นแล้วคิดว่าคงไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินชื่อ “โดโกะออนเซ็น” เป็นแน่ เพราะที่นี่เป็นย่านออนเซ็นที่โด่งดังอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น และเป็น 1 ใน 3 ออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น คู่กับอาริมะออนเซ็น และชิราฮามะออนเซ็น มีประวัติยาวนานกว่า 3,000 ปี
ก่อนจะออกไปเที่ยวชมเมือง เราขอไปจัดการเก็บสัมภาระที่โรงแรมกันก่อน เพื่อที่จะได้เปลี่ยนชุดยูกะตะสวยๆ เพื่อมาเดินเล่นในเมืองกัน
ที่พักของเราในคืนนี้อยู่ไม่ไกลจากใจกลางเมือง สะดวกต่อการเดินทาง และเที่ยวในย่านนี้มากๆ จากสถานีรถราง Dogo Onsen เดินลัดเลาะผ่านย่านการค้า จากหน้าสถานีไปแค่ 5 นาทีก็ถึงค่ะ
Hotel Dogo Yaya
โรงแรมสไตล์เรียวกังร่วมสมัย ให้ความผ่อนคลายแบบญี่ปุ่นแท้ๆในบรรยากาศโรงแรมสมัยใหม่ ใจกลางเมือง ห้องพักมีหลายแบบให้เลือก และมีสิ่งบริการอย่างครบครันมากๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แน่นอนอยู่แล้วค่ะว่าเป็นหัวใจสำคัญมากๆ ของโรงแรม
แต่ที่เราเลือกมาพักที่โรงแรมนี้ก็เพราะนี่เลย น้ำส้มจากก๊อกน้ำ!! ที่ล้ำไปกว่าก็คือ มีให้ดื่มแบบไม่อั้นด้วยส้ม 3 สายพันธุ์กันไปเลย 55 บอกเลยค่ะ ว่าตั้งแต่กลับมาจากเที่ยวจังหวัดเอฮิเมะ ติดใจน้ำส้มมากๆ จากที่เป็นคนชอบดื่มกาแฟ และดื่มหนัก ดื่มเยอะมากๆ แต่ตอนนี้เปลี่ยนมาดื่มน้ำส้มทุกวันเลย เพราะความอร่อยสดชื่นล้วนๆ เลยค่ะ
และอีกอย่างที่โดดเด่นคือ เค้ามีผ้าขนหนูจากเมืองอิมาบาริให้เราเลือกใช้แบบจุใจ กันไปเลยค่ะ (เมืองอิมาบาริ จังหวัดเอฮิเมะ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการทำผ้าขนหนูคุรภาพสูงที่โด่งดังไปทั่วโลก ที่เราได้พาไปเที่ยวใน ep5 กันมาแล้ว ใครยังไม่ได้อ่านตามไปได้ที่นี่นะคะ xxxxxx )
ชุดยูกะตะสีสันสดใส และชุดของใช้ในห้องน้ำ อเมนิตี้ ต่างๆ ก็มีวางให้เลือกตามที่ชอบได้เลย
จัดการเช็คอินเก็บของ เปลี่ยนชุดเรียบร้อยก็ถึงเวลาออกไปเดินเล่นชมเมืองกันแล้วค่ะ
Hotel Dogo Yaya
เว็บไซต์: https://www.yayahotel.jp/
เดินลัดเลาะตามถนนช็อปปิ้งของโดโกะออนเซ็นย้อนกลับมาที่หน้าสถานีรถไฟกันอีกที จุดนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมออกมาเดินเล่นกัน
ถ้าใครมาเที่ยว แต่ไม่ค่อยมีเวลา จะแค่มาเดินเล่นชมบรรยากาศ แวะที่ออนเซ็นเท้านั่งแช่เท้าซักนิดก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว เพราะน้ำแร่ที่นี่เค้าว่าดีมากๆ เป็นน้ำพุร้อนอัลคาไลน์ (Alkaline Spring) ซึ่งอ่อนโยนต่อผิว ว่ากันว่ามีสรรพคุณช่วยในการฟื้นฟูความเหนื่อยล้า ผ่อนคลายความเครียด ได้เป็นอย่างดี
เดินลัดเลาะตามถนนช็อปปิ้งเข้ามาเรื่อยๆ ก็จะถึงตัวอาคาร “โดโกะออนเซ็นฮอนคัง” 道後温泉本館 โรงอาบน้ำสาธารณะที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์สำคัญของโดโกะออนเซ็น สถาปัตยกรรมเก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นในปี 1894 แต่หากสังเกตดูดีๆ จะเห็นได้ว่าอาคารนี้ได้มีการใช้การตกแต่งแบบตะวันตกหลายจุดเหมือนกัน เช่น กระจกสีของหน้าต่างที่อยู่ด้านบนสุดของตัวอาคาร ที่จะมีสีแดงลอดออกมาเมื่อมีแสงส่องผ่าน
ด้วยความงดงามของโครงสร้างตัวอาคารทำให้ที่นี่เป็นโรงอาบน้ำสาธรณะแห่งแรกที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่น และยังเคยได้รับรางวัลมิชลิน 3 ดาวใน Michelin Guide ปี 2009 อีกด้วยค่ะ
ฝาท่อลายน่ารักๆ ของโดโกะออนเซ็น อยู่ตรงริมขวามือของด้านหน้าอาคาร ใครไปแล้วลองสังเกตดูดีๆ นะ
ขอพรความรัก วัดเอมมัง 圓満寺 พาวเวอร์สปอตลับๆ ของโดโกะออนเซ็น
จากหน้าโรงอาบน้ำโดโกะออนเซ็นฮอนคัง เดินตรงไปเรื่อยๆ ประมาณ 3 นาที จะมีจุดพาวเวอร์สปอต ที่เป็นที่นิยมมากๆ ของคู่รักในตอนนี้
เล่าขานต่อๆ กันมาว่าวัดนี้สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.812 ภายในตัววิหาร มีรูปปั้นพระโพธิสัตว์องค์ใหญ่ 3.67 เมตร สีสันสดใส ประดิษฐานอยู่ มีตำนานเล่าขานอีกว่า มีประวัติความเป็นมาที่เกี่ยวพันกับโดโกะออนเซ็นมายาวนาน
ในยุคปี 1855 น้ำพุร้อนที่โดโกะออนเซ็นได้เกิดหยุดไหล จึงได้มีการไหว้ขอกับพระโพธิสัตว์หลังจากนั้นน้ำพุร้อนก็ได้กลับมาไหลพุ่งพวยตามเดิม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จึงได้มีการเรียกขานพระโพธิสัตว์องค์นี้ว่า “ยุโนะไดจิโซ” 「湯の大地蔵」ซึ่งแปลว่าพระโพธิสัตว์แห่งน้ำพุร้อน
นอกจากนี้ ท่านยังมีอีกชื่อว่า “ฮิโยเกะจิโซ”「火除け地蔵」ที่เชื่อว่าช่วยปกป้องให้แคล้วคลาดจากอัคคีภัยที่เป็นปัญหาของย่านออนเซ็นแห่งนี้ในสมัยก่อนอีกด้วย
ยังๆๆ ยังไม่หมดนะคะ ท่านยังมีมากกว่านี้….. และจาก คำว่า ฮิโยเกะ 火除け ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งคงไปพ้องกับคำว่า ฮิอาโซบิ ที่แปลว่าเล่นกับไฟ หรือเจ้าชู้นั่นแหละ เลยกลิ้งไปกลิ้งมา กลายเป็นว่าท่าน (คง) ช่วยปกป้องไม่ให้คู่รักไปมีใจให้คนอื่นได้อีกด้วย ยังๆๆ ยังมีต่อนะ ครอบครัวร่มเย็นมีสุข อายุยืน ชีวิตคู่ราบรื่น มีรักแล้วได้อยู่ด้วยกันนานๆ การค้าเจริญรุ่งเรืองอีก เป็นต้น หูยยยยยย เยอะแยะไปหมดเลย ….
โอมุสุบิทามะ お結び玉
ไอเทมยอดฮิตของสาวๆ และคู่รักที่มาเยือนวัดเอมมัง 圓満寺 ตรงด้านหน้าวิหารของ “ยุโนะไดจิโซ” 「湯の大地蔵」จะมีผ้าสีสันสดใสลักษณะคล้ายลูกบอลเล็กๆ ถูกมันเป็นสายระย้าเต็มไปหมด
ว่ากันว่าถ้าเอา โอมุสุบิทามะ ไปขอพรแล้วความรักจะสมหวัง สามารถซื้อลูกบอลผ้า โอมุสุบิทามะ ที่วางอยู่บนถาดสีแดงหน้าองค์พระฯ (ก้อนละ 300 เยน)ได้เลย แต่ละลูกสีและลายจะไม่เหมือนกันนะคะ เพราะเป็นของทำมือจากกลุ่มแม่บ้านในท้องถิ่นทุกชิ้นเลย …
วิธีขอพรมีดังนี้
1. นำมาถือไว้บนมือด้านซ้ายเหมือนองค์พระฯ แล้วอธิษฐาน
2. นำไปแขวนไว้ตรงเชือกที่ผูกอยู่ด้านหน้าวิหาร หรือจะนำกลับบ้านก็ได้
3. เอาแผ่นยันต์ที่วางในถาดข้างๆ ถากโอมุสุบิทามะ กลับไปด้วย 1 แผ่น ถ้าสิ่งที่ขอสมหวังแล้วให้เอาแผ่นยันต์กลับมาคืน
นอกจากนี้ยังมี แผ่นเอมะให้เขียนขอพรด้วยเช่นกัน ใครชอบอันไหนก็เลือกเอาได้เลยนะคะ
และอย่าลืมที่จะถ่ายรูปตรงโอมุสุบิทามะด้วยนะ เพราะที่นี่เป็นอีกจุด photogenic ของสาวๆ ญี่ปุ่นเค้าเลยแหล่ะ
ไทเมชิ อีกหนึ่งเมนูท้องถิ่นประจำจังหวัดเอฮิเมะที่ห้ามพลาด
ไทเมชิ หรือข้าวหน้าปลาไท เป็นเมนูท้องถิ่นขึ้นชื่อของจังหวัดเอฮิเมะ ปลาไท หรือปลากะพงแดงญี่ปุ่นนั้น เป็นปลาที่ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบและมีการรับประทานมาแต่ช้านาน ถือเป็นปลามงคลที่มักจะนำมาประกอบอาหารในวาระสำคัญๆ เสมอ ซึ่งที่จังหวัดเอฮิเมะนี้ ถือได้ว่าเป็นแหล่งของปลาไทนี้เลยแหล่ะ
มาถึงถิ่นทั้งที เราต้องลองค่ะ…
ร้านที่ไปรับประทานวันนี้ อยู่ไม่ไกลจากที่พักเลยค่ะ เดินง่ายมากๆ ชื่อร้าน คาโดะยะ かどや
เว็บไซ์: https://www.kadoya-taimeshi.com/kadoyamanage/shoplist/sanchikuju/
ข้าวไทเมชิ จะมี 2 สูตรตามท้องถิ่น ที่เห็นบ่อยๆ จะเป็นสูตรที่นำข้าวไปอบพร้อมปลาทั้งตัวแบบฝั่งเมือง Imabari กับ เมืองMatsuyama
ร้านที่เราจะรับประทานกันวันนี้ คือสูตร แบบฝั่งเมือง Uwajima ซึ่งจะเป็นการนำเนื้อซาชิมิปลาไทสดๆ ที่แล่เป็นชิ้นพอดีคำไปผสมกับไข่ดิบและซอสโชยุ จากนั้นก็นำมาราดบนข้าวสวยร้อนๆ แล้วรับประทานค่ะ
อาบน้ำที่ โดโกะออนเซ็นฮอนคัง และเดินเล่นรอบๆ อาคาร ตอนกลางคืน
รับประทานอาหารกันอิ่มแล้วก็ได้เวลาไปอาบน้ำกันค่ะ แต่ขอบอกก่อนเลยว่าที่นี่คนเยอะมากๆ ควรไปจองคิวไว้เนิ่นๆ ทางเข้าจะอยูด้านหลังนะคะ ไปจองคิวไว้แล้วเราจะได้บัตรคิวมาแบบนี้ (รูปเบลอ… 55) ได้บัตรคิวแล้วก็เดินเล่นรอบๆ อาคารโรงอาบน้ำ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ค่ะ
ตัวอาคารช่วงกลางคืน ก็สวยงามและดุขลังไปอีกแบบ แนะนำว่าให้เดินดูรอบๆ ให้ครบทุกด้านเลยนะคะ เป็นอาคารที่สวยงดงามจริงๆ
ไม่ไกลจากโรงอาบน้ำมีจุดบริการออนเซ็นเท้า ต้องเดินขึ้นเนินไปนิดนะคะ แต่วิวดีมาก เห็นอาคารและวิวเมืองจากมุมสูงได้ดีเลย
โดโกะออนเซ็นอาคารย่อย อาสุกะโนะยุ Dōgo Onsen Bekkan Asuka no Yu 道後温泉別館 飛鳥乃湯泉
โรงอาบน้ำสาธารณะอีกแห่งในบริเวณใกล้ๆ กัน ตัวอาคารจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบสมัยอาสุกะของญี่ปุ่น ลานด้านหน้าอาคารตอนกลางคืนจะมีประดับไฟไลท์อัพสวยงาม และมีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ใครชอบแบบไหนก็เลือกใช้บริการกันได้เลยนะคะ
แอบกระซิบว่าราเมงซุปปลาไทที่ร้าน kinbei 金兵衛 ฝั่งตรงข้ามอร่อยมากกก ซดร้อนๆ หลังอาบน้ำคือนิพพานจริงๆ ค่ะ…..
ทริปเที่ยวรอบเกาะชิโกกุ ยังไม่จบนะคะ พรุ่งนี้เราจะข้ามจังหวัดเข้าสู่โคจิ จังหวัดสุดท้ายของเกาะกัน เตรียมพบกับความสนุกของเรากันต่อไปนะคะ ….
เรื่องแนะนำ :
– ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดเอฮิเมะ EP.5
– ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดคางาวะ EP.4
– ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดคางาวะ EP.3
– นั่งรถไฟขบวนหรู Shikoku Mannaka Sennen Monogatari เที่ยวจังหวัดคะงาวะ
– ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโทคุชิมะ EP.2
– ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโทคุชิมะ EP.1
– เที่ยวพิพิธภัณฑ์ผ้าขนหนูสุดว้าว แห่งจังหวัดเอฮิเมะ
– เที่ยวสวนโมเน่ต์ มาร์โมแต็ง (Monet Marmottan) จังหวัดโคจิ
#ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดเอฮิเมะ EP.6