เที่ยวชิโกกุ แบบจัดเต็ม คัดเน้นๆ ที่เที่ยวที่กิน ครบ 4 จังหวัดรอบเกาะ
ทิ้งความวุ่นวายของเมืองกรุง มุ่งตรงสู่ชิโกกุ ดินแดนแห่งธรรมชาติ อาหารแสนอร่อย เที่ยวสนุกครบทุกรูปแบบ 4 จังหวัดบนเกาะชิโกกุ EP.8 – จังหวัดโคจิ (Kochi) ตอน 2 … จบทริปเที่ยวชิโกกุกันแล้วจ้า
มาถึง EP.8 จบทริปกันแล้วค่ะทุกคน สำหรับทริปเที่ยวรอบเกาะชิโกกุของเรา กับภาคสองของจังหวัดโคจิซึ่งเป็นตอนปิดท้ายกันแล้ว
ส่วนใครยังไม่ได้อ่าน EP. ก่อน ตามได้ที่ลิงค์นี้นะคะ
ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโทคุชิมะ EP.1
ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโทคุชิมะ EP.2
ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดคางาวะ EP.3
ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดคางาวะ EP.4
ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดเอฮิเมะ EP.5
ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโคจิ EP.6
ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโคจิ EP.7
จังหวัดโคจิ (Kochi) มีทำเลอยู่ทางตอนใต้สุดของเกาะชิโกกุ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากมาย ทั้งทะเล ภูเขา และแม่น้ำ สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย แถมยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่มากๆ อีกแห่งของชาวญี่ปุ่นด้วยแหล่ะ
จุดท่องเที่ยวเด็ดๆ ปังๆ ก็มีเยอะมาก โดยเฉพาะคนที่ชอบเที่ยวสายธรรมชาติรับรองเลยว่าจะต้องหลงรักจังหวัดนี้แน่นอน ในตัวเมืองก็ดูคึกคักมาก ทั้งแหล่งช้อปปิ้ง การคมนาคมที่สะดวกสบาย และ แน่นอนว่าของอร่อยๆ ก็ต้องมาค่ะ…
เอาล่ะค่ะในจังหวัดนี้จะมีอะไรอีกบ้าง ตามเราไปเที่ยวกันเลยค่ะ…
ปราสาทโคจิ (高知城)
เช้านี้ออกเดินทางเที่ยวต่อกันโดยจะไปสัมผัสกับความญี่ปุ้น ญี่ปุ่น ที่ปราสาทโคจิกันนะคะ
ปราสาทโคจิ ปราสาทสูง 5 ชั้นที่ตั้งอยู่บนเขาที่อยู่ใจกลางเมืองโคจิ สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1601 เป็น 1 ในปราสาทไม้เก่าแก่ 12 แห่งที่ยังคงเหลืออยู่ในญี่ปุ่น ซึ่งรอดพ้นจากศึกสงครามและภัยพิบัติต่าง ๆ มาได้
แม้จะมีการปรับปรุงในยุคต่อมา แต่ก็ยังคงความเก่าแก่ดั้งเดิมเอาไว้ ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ
จุดน่าสนใจของปราสาทมีหลายจุดด้วยกัน เช่น กำแพงหิน สถาปัตยกรรมที่ต้องใช้ศิลปะและเทคนิคขั้นสูงในก่อสร้าง
พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่มีฝนตกชุก การเรียงหินจึงต้องใช้เทคนิคที่พิเศษขึ้นไป ที่เรียกว่า “โนะสึระสึมิ” 野面積み ถ้าเทียบกับปราสาทมัทสึยามะ ที่เราไปชมมาใน EP ก่อนหน้า ผู้เขียนมีความรู้สึกว่ากำแพงหินของปราสาทโคจิ มีความประณีตในการร้อยเรียงหินน้อยกว่า แต่ดูเเข็งแรง เวลายืนใกล้ๆ แล้วมองขึ้นไปจะรู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่ง ทรงพลัง น่าเกรงขามมากๆ ค่ะ
เราไปดูด้านในของปราสาทกันบ้างค่ะ
บนยอดจั่วหลังคาของปราสาท มีการประดับด้วยรูปปั้นสัตว์ทะเลในตำนานที่ชื่อว่า “ชะจิ” (鯱) มีลักษณะครึ่งปลาครึ่งมังกร เนื่องจากชะจิเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเล จึงเชื่อว่ามันจะช่วยปกป้องปราสาทให้รอดพ้นจากการเกิดไฟไหม้ได้
บันไดขึ้นไปชั้นบนสุดของหอคอยปราสาท ชันมากกกก
วิวดีสุดๆ เลยค่ะ
นอกจากนี้ บริเวณสวนด้านนอกปราสาท ยังรายล้อมไปด้วยต้นซากุระเก่าแก่ อายุกว่า 400 ปี ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่นี่จึงเป็นจุดชมซากุระที่เนืองแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวอีกจุดหนึ่ง
ของฝากน่ารักๆ มีขายตรงจุดทางเข้า ปราสาทด้านใน
Kochi Castle
เอกสารแผ่นพับฉบับภาษาไทยปราสาทโคจิ หน้า 1 >> https://kochipark.jp/kochijyo/wp-content/uploads/2019/04/62be3f1c2aa1c3cf73d0dc907b75b74c.pdf
เอกสารแผ่นพับฉบับภาษาไทยปราสาทโคจิ หน้า 2 >> https://kochipark.jp/kochijyo/wp-content/uploads/2017/02/pamphlet-thailand-201701-2.pdf
เว็บไซต์: https://kochipark.jp/kochijyo/
เที่ยวสวนโมเน่ต์ มาร์โมแต็ง จังหวัดโคจิ ตามหาดอกบัวสีน้ำเงินที่ โคลด โมเนต์ (Claude Monet) ฝันรำพึงหา
สวนโมเน่ต์ มาร์โมแต็ง ในหมู่บ้านคิตะงาวะ 北川村「モネの庭」 マルモッタン เป็นสวนที่จำลองมาจากสวนโมเนต์ในเมืองชิแวนี (Giverny) ประเทศฝรั่งเศส สถานที่แห่งเดียวในโลกที่มีสิทธิได้ชื่อว่าเป็นสวนโมเนต์ มาร์โมต์ตองอย่างเป็นทางการ เรียกได้ว่าจำลองบรรยากาศมาแบบแทบจะดึงเราให้หลุดเข้าไปอยู่ในภาพวาดนั้นเลยทีเดียว…
ที่สวนนี้เราสามารถมาดื่มด่ำกับความงดงามของดอกไม้และพืชพันธุ์กว่า 1,000 ชนิด ที่แต่งแต้มสีสันบนพื้นที่กว่า 3 หมื่นตารางเมตร
ในสวนจะแบ่งออกเป็น 3 โซน โดยมีไฮไลท์อยู่ที่โซนของสวนน้ำ “Water Garden” อันเป็นที่มาของ “Water Lilies” ภาพสีน้ำมันชุดดอกบัวในน้ำอันโด่งดังของ โมเนต์ ที่ตราตรึงใจใครต่อใครมานับไม่ถ้วน “Flower Garden” สวนดอกไม้นานาพันธุ์หลากสีสันที่จะแปรเปลี่ยนความงามไปตามฤดูกาล และโซน “Light Garden” สวนสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ที่บรรจงสร้างขึ้นมาจนแทบสับสนไปชั่วขณะว่าตอนนี้เราอยู่ในประเทศญี่ปุ่นหรือไม่…
สวนโมเนต์เดินทางยังไง…
สวนโมเนต์ อยู่ห่างจากสถานีรถไฟโคจิ (Kōchi Station) ประมาณ 90 นาที สนามบินโคจิเรียวมะ 60 นาที
ครั้งนี้เราขับรถไปกันถือว่าเส้นทางสะดวกสบายมากๆ ระหว่างทางมีวิวสวยๆ ให้แวะจอดถ่ายรูปเยอะเลย … ที่สำคัญสวนนี้ลานจอดรถกว้างมาก 100 คันจอดได้สบายแถมค่าจอดฟรี
สำหรับคนที่เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางสามารถต่อรถไฟจาก Kōchi Station ใช้รถไฟสาย Dosan Line Local Nahari Toshiyuki ไปลงที่ Nahari Station จะมีรถบัสไปที่สวนโมเนต์ (ต่อรถบัสประมาณ 10 นาที)
★ 2 สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนไปสวนโมเนต์
1. ควรเช็คก่อนว่า ในเดือนไหน มีดอกไม้อะไร เพราะบางทีอาจต้องเหงาๆ ใจที่ไม่ได้เจอดอกไม้สีสดใส
2. ควรไปช่วงเช้า เพราะดอกบัวจะบานช่วงประมาณ 09.00 – 13.00 น.
เช็คข้อมูลกันแล้วเราไปชมภายในสวนกันเลย …
จุดแรกที่ควรไปคือ Water Garden เพื่อชมสระบัว น้ำตกสวยๆ และดอกไม้สีสดใส เพิ่มความสดชื่นชื่นระหว่างทางได้ดีจริงๆ
ดอกไม้หลากหลายพันธุ์อวดสีสันสดใสรายล้อมบึงบัวที่มีสะพานญี่ปุ่นพาดผ่านตรงกลาง รวมทั้งทิวไผ่ ราวกับหลุดออกมาจากภาพวาดเสียจริง
“Water Garden” สวนน้ำที่มีอิทธิพลอันเป็นที่มาของ “Water Lilies” ภาพสีน้ำมันชุดดอกบัวในน้ำอันโด่งดังของ โมเนต์
ดอกบัวหลากสี เบ่งบานแข่งกันอวดโฉมในบึง และเราก็ได้พบกับ “blue water lilies”ดอกบัวสีน้ำเงินที่จิตรกรอิมเพรสชันนิสม์ ผู้หลงใหลในแสง สี เงา และประกายของธรรมชาติเฝ้าฝันหาจนนาทีสุดท้าย แต่น่าเสียดายที่ภูมิอากาศของเมือง ชิแวนี (Giverny) เหมือนจะไม่ค่อยเหมาะกับดอกบัวนี้ซักเท่าไหร่ จึงไม่สามารถเบ่งบานได้
โอวว .. งั้นก็เเสดงว่า ที่สวนโมเน่ต์ มาร์โมแต็ง ในหมู่บ้านคิตะงาวะ ถือว่าจุดที่สำคัญมากๆ เลยสินะ ที่จะได้เห็นวิวนี้นอกจากในภาพวาด…
ไม่เป็นไรนะคะคุณลุงโมเนต์ ตอนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น ณ.สวนโมเน่ต์ มาร์โมแต็ง ในหมู่บ้านคิตะงาวะ ได้สานต่อความฝัน ทำให้มีดอกบัวสีน้ำเงินนี้ได้แล้ว..
ช่วงที่เหมาะสำหรับชมดอกบัวคือช่วงเดือน มิถุนายน – ตุลาคม และหากช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม เราจะได้ชมดอกวิสทีเรียสีน้ำเงินบานสะพรั่งสวยบานระย้าบนสะพานสีเขียวสดราวกับภาพในฝันอีกด้วย…
“Light Garden” สวนแห่งแสง สไตล์เมดิเตอร์เรเนียน
ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาดของโมเนต์ ในช่วงที่เดินทางท่องไปใน เมดิเตอร์เรเนียน โซนนี้ไม่มีที่สวนโมเนต์ในเมืองชิแวนี (Giverny) ประเทศฝรั่งเศสนะคะ สามารถชมได้แค่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น โซนนี้สร้างขึ้นในปี 2008 ประดับประดาไปด้วยแมกไม้นานาชนิด
แต่กาลเวลา กว่า 12 ปีที่ผ่านไปได้ทำให้ความงดงามนั้นลดลง จึงได้มีการรีโนเวทขึ้นมาใหม่ โดยหาแรงบันดาลใจจากผลงานต่างๆ ของโมเนต์ และมาลงตัวที่ “Bordighera’s Garden” และเปิดตัวอีกครั้งในปี 2020 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 20 ปีของสถานที่แห่งนี้อีกด้วย
นั่งพักจิบชาพร้อมชมภาพและสวน…
จุดต่อไปคือ “Flower Garden” สวนดอกไม้ขนาดใหญ่อีกจุดของสวนนี้ ระหว่างทางจะมีจุดพักผ่อนเป็นระยะๆ บรรยากาศดีจริงๆ
สนามเด็กเล่นเล็กๆ ก็มีด้วยนะ …
“Flower Garden”สวนดอกไม้นานาพันธุ์หลากสีสันที่จะแปรเปลี่ยนความงามไปตามฤดูกาล
ร่มสวยๆ ลายสระบัวมีให้ยืมได้ฟรี แนะนำให้หยิบมาจากจุดขายบัตร์ตรงทางเข้าเลยนะคะ เพราะแดดค่อนข้างแรงเหมือนกัน ถ้าใครชอบสามารถซื้อกลับบ้านได้ที่ Shop
แวะพักซักนิด ที่ Monet’s House Cafe and Bakery
บริการอาหารและของว่างที่ทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ของสวนแนะนำมาว่าหากจะลิ้มลองอาหารในหมู่บ้านคิตะงาวะให้มาที่นี่เลย
รับรองทั้งความอร่อยและหลากหลายของเมนูแน่นอน…
แวะชมร้านของที่ระลึก สินค้าดีไซน์โมเน่ต์มากมายที่ Gallery & Shop
สวนโมเน่ต์ มาร์โมแต็ง
ค่าเข้าชม: 1,000 เยน เด็ก 500 เยน
เวลาเปิดปิด: 09.00 – 17.00 น. (เดือนมิถุนายน – ตุลาคม ปิดทุกวันอังคาร เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ ปิดทุกวันสุดท้ายของเดือน)
การเดินทาง: สถานี Nahari จากนั้นต่อรถบัส Kitagawamura Sonei Bus ไปลงที่ป้าย Mone-no-niwa
ลานจอดรถ : มี ค่าจอดฟรี
ที่อยู่:1100 Notomoko, Kitagawa-mura, Aki-gun, Kochi-ken
เว็บไซต์: www.kjmonet.jp/
มุโรโตะ คินเมะ ด้ง 室戸キンメ丼
มาถึงจังหวัดโคจิทั้งที ไม่มาชิม “คินเมะ ด้ง” ถือว่าพลาดอย่างแรง…. ก่อนจะออกเที่ยวจุดต่อไป เราขอแวะที่เมืองมุโรโตะเพื่อชิมเมนูเด็ด อาหารขึ้นชื่อที่อยากบอก ไม่สิ ขอใช้คำว่าขอร้องให้มาชิมกันเลยดีกว่า….
เมืองมุโรโตะนั้นอยู่ใกล้กับแหล่งจับปลา จึงทำให้สามารถหาปลาคินเมะไดหรือปลากระพงแดงตาโตกินได้แบบสด ๆ
ปลาคินเมะได เป็นปลาที่อาศัยอยู่เขตทะเลน้ำลึก 200 – 800 เมตร แหล่งจับปลาชนิดนี้ที่เป็นที่รู้จักในญี่ปุ่นก็จะมีแค่ที่นอกชายฝั่งอิซุ จังหวัดชิซูโอกะ และนอกชายฝั่งโชชิ จังหวัดชิบะ แต่แหล่งจับปลาของทั้ง 2 แห่งนี้ก็อยู่ไกลจากชายฝั่ง
ปลาคินเมะไดที่มุโรโตะอาศัยอยู่ในน้ำลึกที่ระดับความลึกประมาณ 360 เมตร แต่ด้วยความที่พื้นที่ก้นทะเลของมุโรโตะนั้นมีความลาดชันสูง จึงทำให้บริเวณน้ำลึกที่เป็นแหล่งจับปลาอยู่ใกล้กับชายฝั่ง
ชาวเรือที่ออกไปหาปลาในช่วงกลางดึก เช้ามาก็กลับเข้าฝั่ง พอตกบ่ายปลาคินเมะไดที่จับมาได้ก็มาอยู่บนเขียงในร้านอาหารแล้ว ทำให้มุโรโตะกลายเป็นแหล่งที่สามารถหาปลาคินเมะไดแบบสดๆ ที่จับมาในวันนั้น เป็นจุดแข็งที่ปลาคินเมะไดจากที่อื่น ยากจะเลียนแบบได้
ร้านอาหารในมุโรโตะ จะมีร้านที่บริการเมนู มุโรโตะ คินเมะ ด้ง อยู่ 10 แห่ง วันนี้เราเลือกมาที่ ร้านเรียวเท คะเก็ทสึ (Ryotei Kagetsu) ค่ะ
ร้านดูมีความเรโทล บ่งบอกได้ถึงความเก่า และเก๋า และแน่นอน ร้านแบบนี้แหละ ไม่พลาดแน่ๆ อร่อยแน่นอนค่ะ และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ
ทุกเมนูอร่อยมากกกก ขอย้ำอีกครั้งว่าอร่อยมากกกกกกกก ใครไม่มากิน บอกอีกทีว่าพลาดมากๆ ค่ะ
ข้าวญี่ปุ่นเม็ดอวบๆ หุงได้ที่ ท้อปปิ้งด้วย “ปลาคินเมะไดที่จับได้ที่มุโรโตะย่างซอสเทอริยากิ” และ ซาซิมิปลา เสิร์ฟพร้อมกับ “ซุปคินเมะได” ที่ทางร้านคิดค้นสูตรขึ้นเอง
รับประทานไปได้ซักครึ่งชาม ลองราดด้วยซุปดาชิสูตรพิเศษของร้านดูนะคะ แทบจะกรี๊ดดดดดดด ออกมาด้วยความอร่อย ยกกำลัง 100 ทีเดียว
สำหรับใครที่ไม่กินปลาดิบ มีเมนูเทริยากิ หวานๆ หอมๆ ด้วยนะคะ
เย้~ ได้ตุ๊กตาปลาคินเมะได ตัวใหญ่เลยค่ะ ดีใจ……
อ้อ!! ที่ร้านนี้เค้ามีให้จับฉลากด้วย รับประทานเสร็จแล้วเดี๋ยวเราเอาบัตรแลกฉลากไปจับที่ชั้นล่างกันค่ะ นี่ไงจับมาแล้ว จะได้อะไรน้า….
อิ่มแล้วเดินชมวิวรอบๆ ท่าเรือซักหน่อย บรรยากาศดูสงบมากๆ ฟ้าใสแจ๋วเลย
แหลมมุโรโตะ (室戸岬)
อิ่มแล้วก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ จุดต่อไปเราจะไปชมวิวริมทะเลกันนะ…
แหลมมุโรโตะตั้งอยู่ทางตะวันออกของจังหวัดโคจิ อยู่ห่างจากตัวเมืองโคจิประมาณ 80 กม. ใกล้กับรอยต่อของจังหวัดโทคุชิมะ มีภูมิประเทศที่ขรุขระซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเล
วิวทิวทัศน์ที่เกิดจากการรังสรรค์ของธรรมชาติที่แปลกประหลาดนี่เอง ทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นอุทยานธรณี หรือ จีโอพาร์ค
วันนี้เรามีเจ้าหน้าที่พาเดินเที่ยวค่ะ อธิบายข้อมูล ประวัติต่างๆ ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลย วิวก็สวยมากๆ ค่ะ
ชั้นหินเทอร์บิไดต์ สัญลักษณ์ของจีโอพาร์ค
หินที่มีลักษณะในแนวตั้งนี้เรียกว่า “ชั้นหินเทอร์บิไดต์” (turbidite) ที่เกิดจากการสะสมตัวกันของซากของทรายและโคลนทับถมกันเป็นชั้นๆ บนพื้นทะเล และถูกดันตัวขึ้นมาในแนวตั้งจากการยกตัวขึ้นของพื้นดินก้นทะเล
ว่ากันว่าก้อนหินนี้มีอายุมากกว่า 16 ล้านปี ปัจจุบันก้อนหินเหล่านี้ยังคงมีการเคลื่อนตัวอยู่เฉลี่ย 1-2 เมตรต่อ 1,000 ปี เจ้าหน้าที่บอกกับเราว่า ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวตามสถานที่แบบนี้ให้เก็บความทรงจำนี้ไว้ให้ดีๆ เพราะมาครั้งต่อไปเราอาจไม่ได้เห็นก้อนหินต่างๆ อย่างในที่เป็นอยู่ตอนนี้เพราะก้อนหินเหล่านี้ยังคงมีการเคลื่อนตัวอยู่นั่นเอง…
หินคูไค ก้อนหินรูปหน้าคน
ก้อนหินที่ดูคล้ายกับด้านข้างของใบหน้าคนนี้มีชื่อว่า “หินคูไค” สาเหตุที่มีชื่อนี้ก็เพราะมีตำนานเล่าว่า ในอดีตพระคูไค เคยได้มาปฏิบัติธรรมอยู่ที่บริเวณแหลมมุโรโตะแห่งนี้
รูปปั้น นากาโอกะ ชินทาโร่ ที่กำลังมองดูมหาสมุทรแปซิฟิก
ที่บริเวณแหลมมุโรโตะนี้มีรูปปั้นของนากาโอกะ ชินทาโร่ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับอาคาร Muroto City Tourism Association
นากาโอกะ ชินทาโร่ เป็นซามูไรผู้นำตระกูลโทสะ ผู้ใกล้ชิดของซากาโมโตะ เรียวมะ ที่ได้ร่วมกันล้มล้างรัฐบาลรัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ
ในยุคปลายสมัยเอโดะ ซึ่งบ้านเกิดของเขาอยู่ที่เมืองอะคิ จังหวัดโคจินี่เอง
เจ้าหน้าที่กระซิบบอกปนขำๆ ว่า นากาโอกะ ชินทาโร่ และ ซากาโมโตะ เรียวมะ ถึงจะสนิทกันมากๆ แต่มีความแตกต่างอยู่เยอะเลย เช่น เรื่องแฟชั่น นากาโอกะ ชินทาโร่ จะเป็นคนที่ค่อนข้างเป๊ะ ถ้าเจอรูปปั้นของทั้ง 2 ท่าน ให้ลองสังเกตตรงจีบผ้านุ่งกิโมโนดูนะ
ของท่านจะเรียบเป๊ะ แต่ของ ซากาโมโตะ เรียวมะ จะออกยับๆ ไม่เป็นทรงซักเท่าไหร่ 5555 …. พอมองดูดีๆ ถึงกับอดขำไม่ได้เลยค่ะ
นึกภาพ ซากาโมโตะ เรียวมะ วิ่งผ้าสะบัดที่เคยดูในละครขึ้นมาทันทีค่ะ
จุดชมวิวแหลมมุโรโตะ
เดินเลาะไปด้านหลังรูปปั้น จะมีทางขึ้นไปชมวิวจากมุมสูงนะคะ จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นส่วนปลายสุดของแหลมมุโรโตะ ถัดจากแนวของโขดหินขรุขระไปนั่นก็คือมหาสมุทรแปซิฟิกทอดยาวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เห็นรูปปั้นของท่าน นากาโอกะ ชินทาโร่ ท่านมองอะไรอยู่น้า….
ต้นอะโค (アコウ) ต้นไม้ที่ดูเหมือนกำลังเคลื่อนไหว
ทิวทัศน์ธรรมชาติทีแหลมมุโรโตะไม่ได้มีแค่ก้อนหินเท่านั้น หากเดินห่างจากบริเวณแหลมมาหน่อยจะพบกับต้นอะโค (アコウ) หรือในภาษาไทยคือต้นไทร ซึ่งกิ่งก้านของต้นไม้ชนิดนี้แผ่ออกไปทุกทิศทุกทาง
ดูไปดูมาคล้ายกับหนวดของปลาหมึกยักษ์ที่เหมือนกับว่ามันเคลื่อนไหวได้ ส่วนของรากก็ยึดติดอยู่เกาะกับก้อนหิน ให้ความรู้สึกถึงพลังของธรรมชาติ และเนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่พิเศษของโคจิส่งผลให้กิ่งก้านและรากแทบจะอยู่ติดกัน
เห็นอันนี้แล้วทำไมนึกอยากกินมะยมดองนะ…..
ของฝากน่าซื้อที่ Muroto City Tourism Association
วัดโฮตสึมิซากิจิ (最御崎寺)
มาถึงจุดสุดท้ายของทริปเที่ยว 4 จังหวัดรอบเกาะชิโกกุของเรากันแล้ว แน่นอนค่ะจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากไหว้พระขอพร ให้เดินทางกลับอย่างปลอดภัย (และได้มาเที่ยวชิโกกุอีก สาธุๆๆๆๆ ขอให้ได้มาอีกนะ…)
วัดโฮตสึมิซากิจิ (最御崎寺) ก่อตั้งโดยพระโคโบ ไดชิ ในช่วงปีค.ศ. 807 เปิดให้เข้าสักการะโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ตั้งอยู่ในภูเขาที่เงียบสงบ เป็น 1 ใน สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในเกาะชิโกกุลำดับที่ 24 ล
รูปเคารพหลักประจำวัดคือพระอักโษภยพุทธะ พระพุทธรูปลับที่ไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปสักการะ สร้างโดยพระคูไค ปรมาจารย์แห่งนิกายชินงอน
ที่หอสมบัติของทางวัด เรโฮเดน (霊宝殿) เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 3 องค์ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ ได้แก่ พระไภษัชยคุรุไม้แกะสลักปางประทับนั่ง พระจันทรประภาโพธิสัตว์ไม้แกะสลักปางประทับยืน พระจินดามณีจักรโพธิสัตว์หินแกะสลักปางสมาธิครึ่งดอกบัว
ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ที่มีมีการจัดงานเทศกาลประภาคารแหลมมุโรโตะ (Murotomisaki-todai Lighthouse Festival) จะมีการเปิดให้สักการะพระพุทธรูป 3 องค์นี้
นอกจากนี้ในบริเวณวัดยังมี “หินระฆัง” 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของพระคูไค เป็นก้อนหินที่เมื่อถูกตีแล้วจะมีเสียงดังคล้ายกับเสียงระฆัง
บรรยากาศด้านใน
วัดโฮตสึมิซากิจิ (最御崎寺)
เว็บไซต์: https://www.attaka.or.jp/kanko/dtl.php?ID=875
https://tabi-mag.jp/ko0068/
สนามบินโคจิเรียวมะ Kochi Ryoma Airport
ก่อนโบกมืออำลาภูมิภาคชิโกกุ เราต้องซื้อของฝากค่ะ ในสนามบินโคจิเรียวมะ มีร้านของฝากเยอะมาก ร้านอาหารก็หลายร้านเลย แถมยังมีบริการส่งแมวดำ (บริการขนส่งในประเทศญี่ปุ่น) ให้ด้วย
ใครกังวลเรื่องน้ำหนักกระเป๋า ช้อปได้สบายใจนะคะ ซื้อเลยค่ะ ของอร่อยๆ เยอะมากกกก จ่ายเงินแล้วให้ทางร้านส่งของไปรอที่สนามบินปลายทางรอขึ้นเครื่องกลับไทย หรือจะให้ไปส่งที่โรงแรมคืนต่อไปก็ได้เช่นกันค่ะ
ซื้อของฝากจุใจแล้วก็ต้องโบกมือลากันจริงๆ เสียที
พี่เรียวมะมายืนส่งด้วย บ้ายบายนะคะ
ไว้จะมาอีกอีกน้าาา…..
ท้ายนี้ขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตามอ่านจนถึง EP. สุดท้าย (บอกเลย บทความแต่ละตอนยาวมาก 55) ขอบคุณจากใจจริงๆ ค่ะ
ฝากเพจมารุมุระไว้ในอ้อมใจนานๆ แล้วรอพบกันใหม่กับที่เที่ยว ที่กิน ที่พักเด็ดๆ และสาระต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่นจากพวกเรากันอีกนะคะ …..
เรื่องแนะนำ :
– ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโคจิ EP.7
– ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดเอฮิเมะ EP.6
– ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดเอฮิเมะ EP.5
– ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดคางาวะ EP.4
– ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดคางาวะ EP.3
– นั่งรถไฟขบวนหรู Shikoku Mannaka Sennen Monogatari เที่ยวจังหวัดคะงาวะ
– ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโทคุชิมะ EP.2
– ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโทคุชิมะ EP.1
– เที่ยวพิพิธภัณฑ์ผ้าขนหนูสุดว้าว แห่งจังหวัดเอฮิเมะ
– เที่ยวสวนโมเน่ต์ มาร์โมแต็ง (Monet Marmottan) จังหวัดโคจิ
#ตื่นเต้นระทึกใจกับธรรมชาติลึกลับในภูมิภาคชิโกกุ – จังหวัดโคจิ EP.8