เที่ยวเช็คอินจุดถ่ายรูปเก๋ๆ
[ Kagawa / Ehime ]
• Kansai International Airport ⇒ Takamatsu Port
[ Limousine Bus 197 นาที ]
• Takamatsu Port ⇒ Tonosho Port
[ เรือ Ferry 60 นาที ]
Shodoshima (Kagawa) - เกาะใหญ่เป็นอันดับ 2 ในพื้นที่ทะเลในเซโตะ อยู่ทางตะวันออกของจังหวัดคากาวะ ใช้เวลานั่งเรือเฟอรี่จากท่าเรือ Takamatsu (เกาะ Shikoku) ไปยังท่าเรือ Tonosho (เกาะ Shodoshima) ประมาณ 1 ชั่วโมง ด้วยบรรยากาศโดยรวม จึงได้ฉายาว่า “Mediterranean of Japan” เป็นหนึ่งในสถานที่จัดแสดงงานอาร์ตในช่วงเทศกาล Setouchi Triennale Art Festival ซึ่งจัดขึ้นทุกๆ 3 ปี จึงเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวแบบ Island Hopping ด้วย แล้วยังมีอีกฉายาหนึ่งว่า ‘เกาะมะกอก’ เพราะเป็นแหล่งปลูกมะกอก คล้ายกับเกาะในประเทศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
• Tonosho Port ⇒ Angel Road
[ รถบัส 6 นาที ]
Angel Road (Kagawa) – เส้นทางเดินบนพื้นทรายที่จะปรากฏขึ้น เฉพาะในยามที่น้ำทะเลลดลงเพียงวันละ 2 ครั้ง และเชื่อกันว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวหากได้จับมือกับคนพิเศษแล้วเดินไปตามเส้นทางนี้ด้วยกัน คำอธิษฐานก็จะเป็นจริง เป็นสถานที่ซึ่งเหมาะกับคู่รักมากๆ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวแห่งพันธะสัญญา ที่ซึ่งคู่รักนิยมมาสาบานรักร่วมกันอีกด้วย
• Angel Road ⇒ Shodoshima Olive Park
[ รถบัส 18 นาที ]
Shodoshima Olive Park (Kagawa) - สวนสาธารณะบนเนินเขา เป็นจุดชมวิวทะเลในเซโตะที่สวยมากแห่งหนึ่งของจังหวัดคากาวะ เป็น photo spot ในบรรยากาศคล้ายกับอยู่ประเทศกรีซ สวนแห่งนี้มีต้นมะกอกอยู่ถึง 2,000 ต้น และสมุนไพรอีกกว่า 130 ชนิด นักท่องเที่ยวสามารถมาเดินเที่ยวชมสวน ซื้อผลิตภัณฑ์จากมะกอก และลิ้มรสอาหารที่หลากหลายซึ่งปรุงจากมะกอก เป็นต้น
• Shodoshima Olive Park ⇒ Tonosho Port
[ รถบัส 20 นาที ]
• Tonosho Port ⇒ Takamatsu Port
[ เรือ Ferry 60 นาที ]
• Takamatsu Port ⇒ Kitahama Alley
[ เดินเท้า 24 นาที ]
Kitahama Alley (Kagawa) - จุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดคากาวะ ตั้งอยู่ริมทะเลไม่ไกลจากท่าเรือ Sun Port Takamatsu โดยการดัดแปลงโกดังสินค้าเก่าแก่ให้เป็นร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ ฯลฯ เพื่อส่งเสริมให้เกิดธุรกิจในท้องถิ่น มีร้านเก๋ๆ มีสไตล์ไม่ซ้ำใครอยู่หลายร้านเลยทีเดียว
• Kitahama Alley ⇒ Takamatsu Station
[ รถบัส 3 นาที ]
แนะนำที่พักย่าน Takamatsu Station
• Takamatsu Chikko Station ⇒ Ritsurin Koen Station
[ รถราง 7 นาที ]
• Ritsurin Koen Station (Kotoden) ⇒ Ritsurin Park
[ เดินเท้า 10 นาที ]
Ritsurin (Kagawa) – สวนญี่ปุ่นเก่าแก่ของอดีตท่านเจ้าเมืองที่ตกทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น มีประวัติยาวนานเกือบ 400 ปี ได้รับ 3 ดาวจาก Michelin Green Guide Japan มีอาณาบริเวณกว้างขวาง มีภูเขาจำลองถึง 13 แห่ง และสระน้ำอีก 6 แห่ง เป็นสวนที่สวยงามตลอดทั้งปี มีเสน่ห์ที่ทิวสนซึ่งได้รับการดูแลเป็นอย่างดี รวมถึงเรือนน้ำชา และมีกิจกรรมให้สามารถล่องเรือเที่ยวชมภายในสวนได้อีกด้วย
• Ritsurin Park ⇒ JR Ritsurin Station
[ เดินเท้า 20 นาที ]
• Ritsurin Station ⇒ Kanonji Station
[ รถไฟ JR 62 นาที ]
• Kanonji Station ⇒ Takaya Shrine
[ รถบัสหรือรถแท็กซี่ 19 นาที ]
Takaya Shrine (Kagawa) – ศาลเจ้าดังแห่งเมือง Kanonji ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง 404 เมตร เป็นจุดชมวิวทะเลในเซโตะที่สวยงามมาก โดยมีเสา Torii ฉายา ‘Sky view torii’ ตั้งเด่นเป็นประตูต้อนรับเทพเจ้าอยู่บริเวณด้านหน้าศาลเจ้าหลัก ในปี 2018 ที่นี่ติดอันดับ 1 ใน 88 วิวที่สวยที่สุดของเกาะชิโกกุ นอกจากวิวท้องทะเลอันสวยงามแล้ว ในฤดูใบไม้ผลิ ศาลเจ้าแห่งนี้ยังถือเป็นจุดชมซากุระยอดนิยมแห่งหนึ่งของจังหวัดเอฮิเมะอีกด้วย
• Takaya Shrine ⇒ Chichibugahama Beach
[ รถบัสหรือรถแท็กซี่ 21 นาที ]
Chichibugahama Beach (Kagawa) – ชายหาดสวยทางตะวันตกของจังหวัดคากาวะ ซึ่งเป็น photo spot ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดิน เพราะแสงสีทองจะสะท้อนน้ำทะเลและแอ่งน้ำที่ค้างอยู่ตามสันทรายในช่วงน้ำลง เป็นภาพที่งดงามแปลกตา หาชมไม่ได้ง่ายๆ ในช่วงเวลาดังกล่าวชายหาดกว้าง 400 เมตร ยาวประมาณ 1 กม. แห่งนี้ จึงคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว
แนะนำที่พักย่าน Chichibugahama Beach
• Takuma Station ⇒ Nyugawa Station
[ รถไฟ JR 74 นาที ]
• Nyugawa Station ⇒ Towel Museum
[ รถแท็กซี่ 15 นาที ]
Towel Museum (Ehime) - พิพิธภัณฑ์ผ้าขนหนู แห่งเมืองอิมาบาริ (Imabari) เมืองที่ชื่อเสียงเป็นแหล่งผลิตผ้าขนหนูคุณภาพดี และมีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น แล้วยังส่งออกไปทั่วโลก ถือได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ผ้าขนหนูแห่งแรกของโลก ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการผ้าขนหนูเสมือนดั่งเช่นงานศิลปะ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงขบวนการผลิต มีส่วนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าขนหนู และของฝาก ของที่ระลึกมากมาย รวมถึงมีคาเฟ่สำหรับนั่งพักผ่อนอีกด้วย
• Towel Museum ⇒ Imabari Station
[ รถแท็กซี่ 23 min. ]
• Imabari Station ⇒ Matsuyama Station
[ รถไฟ JR 34 นาที ]
• JR Matsuyama Station ⇒ Okaido Station
[ เดินเท้าหรือรถราง 17 นาที ]
• Okaido Station ⇒ Matsuyama Castle
[ เดินเท้าหรือ Ropeway 20 นาที ]
Matsuyama Castle (Ehime) - ปราสาทที่สร้างขึ้นในสมัย Momoyama และเป็น 1 ใน 12 ปราสาทโบราณของญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นก่อนสมัยเอโดะ แล้วยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มีเอกลักษณ์สำคัญคือหอคอยของแต่ละป้อมที่เชื่อมต่อถึงกัน และล้อมรอบเพื่อป้องกันตัวปราสาทไว้อย่างแน่นหนา นอกจากนี้ ลานหน้าปราสาท (Shiroyama Park) ยังมีต้นซากุระอยู่ถึง 200 ต้น รวมถึงที่บริเวณชั้นบนสุดของตัวปราสาท ยังสามารถชมวิวทะเลในเซโตะได้แบบ 360 องศาอีกด้วย
• Matsuyama Castle ⇒ Okaido Station
[ เดินเท้า Ropeway 20 นาที ]
• Okaido Station ⇒ Dogo Onsen Station
[ รถราง 12 นาที ]
• Dogo Onsen Station ⇒ Dogo Onsen Main Building / Dogo Shopping Street / Enmanji Temple
[ เดินเท้า 3 นาที ]
Dogo Onsen (Ehime) - เมืองออนเซ็นที่มีประวัติยาวนานกว่า 3,000 ปี เป็นหนึ่งในเมืองออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น น้ำแร่ของเมืองนี้เหมาะกับการบำรุงผิวพรรณเป็นอย่างมาก เมืองนี้มีไฮไลท์อยู่ที่โรงอาบน้ำแร่ออนเซ็นสาธารณะ (Dogo Onsen Honkan) และรถรางเก่าแก่ ‘Botchan’ ซึ่งเป็นขบวนที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุด รวมไปถึงถนนคนเดินที่นักท่องเที่ยวสามารถใส่ชุดยากาตะมาเดินเล่นช้อปปิ้งกันได้อย่างสบายใจ ปัจจุบันมีการสร้างโรงอาบน้ำสาธารณะเพิ่มขึ้นใหม่อีกสองแห่ง (Asuka-no-Yu และ Tsubaki-no-Yu) มีสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยมากขึ้น แต่ก็ยังสอดแทรกเอกลักษณ์ของเมืองออนเซ็นแห่งนี้ไว้เป็นอย่างดี
Dogo Onsen Main Building (Ehime) - โรงอาบน้ำสาธารณะหลักแห่งเมืองน้ำพุร้อนโดโกะ หรือ Dogo Onsen Honkan เป็นอาคารไม้เก่าแก่ 3 ชั้น มีอายุเกือบ 130 ปีแล้ว ทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยวนิยมมาใช้บริการกันอย่างเนืองแน่นเป็นประจำทุกวัน นอกจากนี้ อาคารหลังนี้เป็นโรงอาบน้ำสาธารณะแห่งแรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมแห่งชาติ (National Important Cultural Property) และได้รับ 3 ดาว จาก Michelin Green Guide Japan อีกด้วย
Dogo Shopping Street (Ehime) – เป็นเส้นทางเดินช้อปปิ้งในร่ม (shotengai) ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ‘Dogo Haikara Dori’ สามารถเดินมาได้ตั้งแต่หน้าสถานี Dogo Onsen ไปจนถึง Dogo Onsen Honkan เลยทีเดียว มีระยะทางยาวประมาณ 250 เมตร ตลอดสองข้างทาง มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่เปิดให้บริการในเวลา 09.00 – 22.00 น. แล้วยังสามารถเก็บสะสมตราประทับไปแลก certificate ของที่ระลึก รวมถึงบัตรเข้า Dogo Onsen Honkan ได้อีกด้วย
Enmanji Temple (Ehime) - วัดแห่งนี้ประดิษฐานพระประธานคือ Amida Nyorai ไว้ภายในวิหาร แต่ก็เป็นวัดพุทธที่บูชาผู้พิทักษ์แห่งน้ำพุร้อน (Yunodaijizo หรือ Enmeijizo) เพราะเชื่อว่าท่านจะร่วมกับ Hiyokejizo (ผู้พิทักษ์เหตุไฟไหม้) ช่วยปกปักษ์รักษาเมืองโดโกะจากเหตุเพลิงไหม้ วัดนี้มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 ถือเป็นหนึ่งใน power spot ของญี่ปุ่น ผู้คนนิยมมักจะมาขอพรเรื่องความรักและขอให้มีโชคดี สามารถเดินจากสถานี Dogo Onsen มาได้ในเวลาไม่ถึง 10 นาที
แนะนำที่พักใน Dogo Onsen
• Dogo Onsen Station ⇒ JR Matsuyama Station
[ เดินทางหรือรถราง 30 นาที ]
• JR Matsuyama Station ⇒ (IYONADA MONOGATARI) ⇒ Shimonada Station
[ รถไฟ JR 44 นาที ]
Iyonada Monogatari (Ehime) – ขบวนรถไฟสุดโรแมนติกเลียบชายฝั่ง เชื่อมต่อระหว่างสถานี Matsuyama, สถานี Iyo-ozu, และสถานี Yawatahama ให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ บริการวันละ 4 ขบวน โดยมีให้เลือกถึง 4 เส้นทาง (ขบวนละ 2 ตู้เท่านั้น) นักท่องเที่ยวสามารถมานั่งรถไฟชมวิวทะเลสวยๆ พร้อมทั้งลิ้มรสอาหารอร่อยๆ บนขบวนรถไฟนี้ได้ด้วย (จองล่วงหน้า)
JR Shimonada (Ehime) – สถานีรถไฟซึ่งเคยเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นสถานีรถไฟของญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้ทะเลมากที่สุด ก่อนที่จะมีการสร้างถนนสาย ‘Yuyake-koyake Line’ ขึ้นมาขวางระหว่างสถานี Shimonada กับชายฝั่งทะเลในเซโตะ แต่ด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามเมื่อมองจากสถานี ทำให้สถานีแห่งนี้ยังคงได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบรถไฟ แถมยังกลายเป็นฉากในภาพยนตร์และละครอีกหลายเรื่องด้วย
• Shimonada Station ⇒ Iyo Ozu Station
[ นั่งรถไฟ JR 48 นาที ]
• Iyo Ozu Station ⇒ Garyu Sanso / Ohanahan Street / Ozu Castle
[ รถบัส 6 นาที ]
Garyu Sanso (Ehime) - บ้านญี่ปุ่นเก่าแก่ริมแม่น้ำ Hijikawa ของอดีตพ่อค้าคนดังในสมัยเมจิของเมืองนี้ ‘Kouchi Torajiro’ มีสถาปัตยกรรมสไตล์ Sukiya-zukuri มีเรือนน้ำชาที่โดดเด่น สามารถมองเห็นวิวฝั่งน้ำได้รอบด้าน ให้บรรยากาศที่สงบ ร่มรื่น แต่ก็น่าตื่นเต้น นอกจากนี้ยังมีสวนญี่ปุ่นขนาดเล็กที่ดูเหมือนข้ามผ่านกาลเวลามาอย่างมีมนต์ขลัง บ้างก็เรียกสถานที่แห่งนี้ว่า ‘Katsura Rikyu of Ozu’ หรือพระตำหนักคัตสึระแห่งเมืองโอซึ
* พระตำหนักคัตสึระ เป็นพระตำหนักสำคัญของเมืองเกียวโต
Ohanahan Street (Ehime) – ถนนที่ตั้งชื่อขึ้นตามละครดังของช่อง NHK ซึ่งออกอากาศในปี 1966 ‘Ohanahan’ เนื่องจากถนนเส้นนี้เป็นฉากหลักในละครนั่นเอง ถนนแห่งนี้ยังคงบรรยากาศญี่ปุ่นยุคเอาไว้ โดยมีบ้านพักเหล่าซามูไร (ฝั่งทิศใต้) ตั้งอยู่บนถนนเส้นเดียวกันกับย่านบ้านพักของเหล่าพ่อค้า (ฝั่งทิศเหนือ) เพียงแต่ถูกแบ่งเขตออกจากกันด้วยคลองส่งน้ำเล็กๆ เท่านั้น
Ozu Castle (Ehime) – แลนด์มาร์คสำคัญของเมือง Ozu ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำฮิจิ (Hijikawa) เป็นปราสาท 4 ชั้น ฉายา ‘Jizogadake Castle’ หรือปราสาทเต่า ไม่ทราบปีที่ก่อสร้างที่แน่ชัด แต่ถูกครอบครองโดยตระกูล Kato มาตั้งแต่ปี 1617 จนถึงต้นสมัยเมจิ ซึ่งแม้จะเริ่มเก่าแก่และผุพังไปบ้างตามกาลเวลา แต่ชาวเมือง Ozu ก็ร่วมกันบริจาคเพื่อบูรณะให้มีความสมบูรณ์ที่สุด เพื่อส่งต่ออาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ให้กับคนรุ่นหลัง ปัจจุบันปราสาท Ozu เป็นปราสาทแห่งแรกและแห่งเดียวของญี่ปุ่นที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าพักค้างคืนได้
• Ozu Castle ⇒ Iyo Ozu Station
[ รถบัส 6 นาที ]
• Iyo Ozu Station ⇒ Uchiko Station
[ รถไฟ JR 17 นาที ]
• Uchiko Station ⇒ Uchiko Town
[ เดินเท้า 3 นาที ]
แนะนำที่พักใน Uchiko Town
• Uchiko Town (Yokaichi / Gokoku Townscape) ⇒ Uchiko Station
[ เดินเท้า 3 นาที ]
Uchiko Town Yokaichi / Gokoku Townscape (Ehime) - เมืองอุชิโคะยังคงบรรยากาศแบบญี่ปุ่นยุคเก่า (ค.ศ. 1700 - 1800) อยู่มาก โดยมีย่านการค้าเก่าแก่ Yokaichi และ Gokoku ที่ตลอดเส้นทางยาวประมาณ 600 เมตร สองข้างทางยังมีร้านค้ามากมาย ในอดีตย่านนี้เฟื่องฟูมากจากผลิตภัณฑ์จำพวก ‘ขี้ผึ้ง’ ภายในเมืองยังมีโรงละครคาบุกิเก่าแก่ ‘Kabuki Uchiko-za’ ซึ่งแม้ปัจจุบันจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของเมือง แต่ก็ยังมีการใช้ประโยชน์อยู่
• Uchiko Station ⇒ Matsuyama Airport
[ Shuttle Bus 45 นาที ]